สไตล์ศิลปะของเกมเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์ของผู้เล่น งานภาพที่ไม่ดึงดูดใจอาจทำให้คนไม่สนใจเล่นเกมเลย แฟนเกมบางคนชอบความสมจริงของเกม AAA เช่น The Last of Us ในขณะที่บางคนชอบสไตล์การ์ตูนแบบพิกเซลของเกมอินดี้ เช่น Undertale และ Shovel Knight ในขณะเดียวกันนักพัฒนาเกมชอบที่จะสร้างสไตล์ศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อให้ผลงานของพวกเขาโดดเด่น แต่ก็มักจะสอดคล้องกับเรื่องราวภายในเกมเพื่อให้เกิดบรรยากาศร่วมที่เหมาะสมที่สุด อย่างไรก็ตามในหลาย ๆ เกมกลับมีงานภาพที่ขัดแย้งกับเนื้อหาเกมแบบคนละขั้วและในวันนี้เราจะพามาพบกับ 7 เกมที่งานภาพช่างขัดแย้งกับเนื้อหาเกม ส่วนจะมีเกมอะไรบ้างนั้นมาติดตามกันได้เลยครับ
1. Cult of the Lamb
Cult of the Lamb เป็นเกมแนวสร้างและบริหารลัทธิ โดยผู้เล่นจะต้องนำลัทธิของตัวเองและสังเวยตัวละครจิบิที่แสนจะน่ารัก ให้กับพระเจ้าแห่งความมืดที่ลึกลับ เกมนี้ดำดิ่งลึกลงไปในตำนานลัทธิของโลก โดยผู้เล่นสามารถเทศนาและประกอบพิธีกรรมเพื่อรักษาศรัทธาและขวัญกำลังใจของสาวกให้สูงเข้าไว้ ซึ่งจุดเด่นของเกมนี้ก็คือการใช้กราฟิกแบบจิบิน่ารัก ๆ ที่ขัดแย้งกับธีมเกมที่มืดมนแบบสุด ๆ ผู้เล่นอาจลืมไปว่ากำลังดำเนินลัทธิที่ชั่วร้ายในขณะที่กำลังหลอกล่อสมาชิกและสร้างแท่นบูชาเพื่อถูกสังเวยอย่างมีความสุข
2. Doki Doki Literature Club
เกม Doki Doki Literature Club ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในช่วงปลายทศวรรษ 2010 เกมนี้ดูเหมือนเกมจีบสาวทั่วไป แต่เนื้อเรื่องกลับซ่อนความน่ากลัวไว้เบื้องหลัง พล็อตเรื่องสุดเซอร์ไพรส์ของเกมนี้ทำให้ผู้เล่นตกตะลึงและได้รับความสนใจจากชุมชนเกมเมอร์อย่างมาก เกมนี้ประสบความสำเร็จในฐานะเกมสยองขวัญด้วยการใช้กราฟิกแบบอนิเมะหลอกลวงผู้เล่นจนตับไตไส้พุงพังยับ
3. Omori
เกม Omori เล่าเรื่องราวมิตรภาพและความฝัน แต่กลับแฝงความมืดมนไว้เบื้องหลัง ตัวละครหลัก Omori อาศัยอยู่ในโลกสีขาวว่างเปล่า ไร้สีสัน เขาออกผจญภัยในโลกแห่งความฝันที่เต็มไปด้วยสีสันที่งดงามราวกับความทรงจำในวัยเด็ก แต่เมื่อความกลัวมาเยือน เพื่อน ๆ ของ Omori ก็กลายเป็นสีขาวดำเหมือนเขา ต่อมาผู้เล่นก็เริ่มเห็นภาพลาง ๆ ของสิ่งมีชีวิตสีดำที่บุกรุกโลกอันสงบสุขของเขา ใต้เหล่ามอนสเตอร์และฉากต่อสู้ที่ไร้เดียงสา ผู้เล่นจะค้นพบประวัติศาสตร์อันมืดมนที่ตามหลอกหลอน Omori และเพื่อน ๆ ของเขา ซึ่งจากตรงนี้ก็ชัดเจนแล้วว่ากราฟิกพิกเซลที่ดูสดใสนั้นแฝงไปด้วยความน่ากลัวเป็นอย่างมาก เพราะงานอาร์ตภายในเกมนี้เป็นส่วนสำคัญของการเล่าเรื่องของเกม
4. Baldi’s Basics in Education and Learningคำพูดจาก คาสิโนออนไลน์ที่ดีที่สุดในทวีปเอเชีย
Baldi’s Basics เป็นเกมสยองขวัญที่ล้อเลียนเกมการศึกษาจากยุค 90 กราฟิกแบบโพลีต่ำที่ดูแล้วเหมือนเกมราคาถูกทั่ว ๆ ไป และเป้าหมายของเกมก็คือผู้เล่นต้องรวบรวมสมุดบันทึก 7 เล่มเพื่อหลบหนีจากโรงเรียน แต่ Baldi ครูใหญ่ของโรงเรียนจะไล่ตามพวกเขาหากพวกเขาทำพลาด ซึ่งดูแล้วไม่น่ามีอะไรน่ากลัวนัก แต่เมื่อผู้เล่นได้เล่นเกมนี้แล้ว บรรยากาศที่วุ่นวายสร้างความรู้สึกไม่สบายใจและความตึงเครียดได้เหลือเชื่อ และด้วยความโดดเด่นนี้เองทำให้ Baldi’s Basics เป็นเกมสยองขวัญที่กลายเป็นไวรัลบน YouTube และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่น ๆมากมาย
5. EarthBound
EarthBound เป็นเกม RPG คลาสสิกของ Nintendo วางจำหน่ายบน NES ในปี 1994 เกมนี้ให้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในสมัยนั้น และปัจจุบันถือเป็นบรรพบุรุษของเกม RPG ที่แปลกใหม่และแหวกแนวอื่นๆ เช่น Undertale และ Lisa: The Painful ด้วยการนำเสนอตัวละครที่สดใสและศัตรูที่ไร้สาระเป็นการปกปิดความมืดมิดที่ซ่อนอยู่ในเรื่องราวของเด็กที่มีพลังจิตออกเดินทางเพื่อกอบกู้โลกจากปีศาจร้าย โดยเฉพาะการต่อสู้กับบอสตัวสุดท้ายที่สุนทรียภาพของเกมก็เปลี่ยนไป Giygas เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีรูปร่างของปีศาจร้ายที่มุ่งมั่นที่จะส่งความเป็นจริงไปสู่นรกอันชั่วร้ายชั่วนิรันดร์ ซึ่งการต่อสู้ครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนของเกม และนี่คือตอนที่ EarthBound ทิ้งหน้ากากที่น่ารักและเผยให้เห็นถึงธรรมชาติที่แท้จริงของมัน
6. RimWorld
RimWorld เป็นเกมจำลองสถานการณ์ที่ลึกซึ้งและซับซ้อนที่ผู้เล่นสามารถสร้างและบริหารจัดการอาณานิคมของผู้รอดชีวิตบนดาวเคราะห์ที่อันตราย เกมดังกล่าวเป็นที่รู้จักในด้านความยืดหยุ่นและความน่าเล่นซ้ำ เนื่องจากผู้เล่นสามารถสร้างอาณานิคมในรูปแบบใดก็ได้ที่พวกเขาจินตนาการได้ ผู้เล่นสามารถสร้างแก๊งค้าอวัยวะ ชุมชนนักเปลือยกายนอกรีต กลุ่มไซบอร์กเหนือมนุษย์ ที่ส่งมอบประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใคร
7. Lisa: The Painful
Lisa: The Painful เป็นเกมที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความเจ็บปวดและการทำลายล้างของมนุษยชาติ เกมนี้มีเนื้อหารุนแรงและดำมืด แต่ก็มีอารมณ์ขันและความแปลกประหลาดอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามแม้จะมีธีมที่มืดมนและน่าสยดสยองเกมนี้กลับได้รับการออกแบบในสไตล์พิกเซลสีสันสดใสที่ทั้งสะดุดตา ซึ่งงานอาร์ตที่ผสมผสานระหว่างความโหดร้ายและความน่ารักที่ไม่เหมือนใครนี้เหมาะสำหรับเกมที่ทั้งท้าทายและคุ้มค่า และมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับผู้เล่น
ทั้งหมดนี้คือ 7 เกมที่งานภาพช่างขัดแย้งกับเนื้อหาเกม หากผู้อ่านคนใดอยากนำเสนอเกมใดเพิ่มเติม ก็สามารถคอมเมนต์บอกกันได้เลยนะครับ
cbrCult of the Lamb Doki Doki Literature Club Omori